ป๋าปอ : ประถมพร แก้วใส

เกือบหนึ่งปีแล้วที่เราพบกันครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนตุลาคม 2561 ในกลุ่มชุมชนบ้านป่ารวก จังหวัดเชียงราย การได้พบกับป้าปอหรือป้าปอ (ตามที่เราเรียกกันในภาษาไทย) อีกครั้งในทริปนี้ ทำให้เธอดูแตกต่างไปจากเดิมมาก ใบหน้าของเธอเปี่ยมไปด้วยความสุข และคุณสามารถสัมผัสได้ถึงความสงบภายในที่เธอมี ป้าปอสามารถสร้างปาฏิหาริย์ด้วยมือและนิ้วของเธอได้ แม้กระทั่ง "สะกดจิตจิตวิญญาณของคุณ" ด้วยเทคนิคการนวดแผนไทยโบราณ

เธอมาต้อนรับเราอย่างร่าเริงและเต็มใจ ในขณะเดียวกันเธอก็กำลังย่างกล้วยอยู่ใต้เพิงท่ามกลางท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยหมอกและฝนปรอย บรรยากาศในทริปของเราคงไม่มีอะไรจะดีไปกว่านี้อีกแล้ว จากนั้นเสียงของกลุ่มชุมชนบ้านป่ารวกก็ดังขึ้น ทีละคนในกลุ่มก็ส่งเสียงร้องด้วยความสุขอย่างสนุกสนาน ปาปอยกถาดกล้วยปิ้งของเธอไปที่กระท่อมเปิดโล่งท่ามกลางสวนสับปะรด และเชิญชวนทุกคนให้มาเพลิดเพลินกับอาหารว่างที่เธอเตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับพวกเรา “ชาวเมือง”

สวนสับปะรดที่ตำบลนางแล จังหวัดเชียงราย ปลูกในเขตปลอดสารเคมีที่กลุ่มเกษตรกรจากกลุ่มชุมชนบ้านป่ารวกเป็นเจ้าของและบริหารจัดการมานานกว่า 2 ปี ป้าปอซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มช่วยจัดการกลุ่มแม้ว่าเธอจะไม่มีสวนสับปะรดเป็นของตัวเองก็ตาม เธอเต็มใจช่วยเหลือกลุ่มมาก เธอเล่าให้เราฟังว่า “ฝนเพิ่งตกเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่มีฝนตก สวนสับปะรดได้รับความแห้งแล้ง ทำให้สับปะรดขาดน้ำจนใบกลายเป็นสีน้ำตาล ตอนนี้ฝนตกแล้ว ถือว่าดีสำหรับสับปะรด ปีนี้แม้จะมีฝนตกน้อย แต่ผลสับปะรดก็ยังรสชาติดีเหมือนเดิม”

เธอเล่าให้เราฟังว่านอกจากการปลูกสับปะรดแบบธรรมชาติแล้ว พวกเขายังจะได้ทดลองปลูกพืชพันธุ์ต่างๆ และชักชวนเกษตรกรคนอื่นๆ ในกลุ่มให้ทดลองปลูกพืชเหล่านี้ในที่ดินของตนเองด้วย สวนแห่งนี้จะเป็นศูนย์ทดลองปลูกผลไม้และพืชผักอินทรีย์จากธรรมชาติ สมาชิกทุกคนในกลุ่มเต็มใจที่จะทำงานร่วมกันและทดลองว่าวิธีใดจะได้ผลดีที่สุด “โครงการนี้เกี่ยวข้องกับการปลูกสับปะรด ต้นไม้ และสมุนไพร รวมถึงการเพาะเห็ดฟางโดยใช้ดินผสมแกลบข้าว” ป้าปอเล่าให้เราฟังอย่างตื่นเต้นพร้อมชี้ให้ดูแกลบข้าวจำนวนมากและถุงดินผสมที่พร้อมจะใส่ในถุงเพาะเห็ด

“การได้ทำงานร่วมกันแบบนี้ ทุกคนมีความสุขที่ได้แบ่งปัน และเต็มใจที่จะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน” เมื่อวันก่อน เราทุกคนได้ช่วยกันทำความสะอาดป่า นอกจากที่วัดพระธาตุดอยองครักษ์จะตัดกิ่งไม้ที่ขึ้นรกครึ้มแล้ว การทำความดีเป็นสิ่งที่ดี เพราะทุกคนจะได้บุญ ป้าปอบอกว่า “ตอนนี้ทานอาหารกลางวันให้อร่อยนะ เราเก็บเห็ดมาทำลาบเห็ดให้ชาวเมืองได้ทานกัน”

หลังอาหารกลางวัน เราได้ลิ้มรสสับปะรดที่หวานกรอบที่เพิ่งตัดสดๆ จากสวน และได้พูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง พร้อมกับชมทัศนียภาพอันเงียบสงบของสับปะรดท่ามกลางทางเดินสีเขียวธรรมชาติ เมื่อมองไปไกลๆ เราจะเห็นวัดพระธาตุดอยองก์ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางสายฝนท่ามกลางป่าไม้สีเขียวอันสวยงาม

“พวกเราทุกคนเชื่อในการทำความดี กินอาหารที่ดี และมีสุขภาพดี นี่คือความสุข ทุกคนมีความสุข แม้แต่ผู้ปลูกสับปะรดก็มีความสุขเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่เราทุกคนสามารถทำงานร่วมกันผ่านการพูดคุย การเรียนรู้ และความไว้วางใจในกลุ่มของเรา เราต้องการเป็นตัวอย่างที่ดีและชักชวนผู้ปลูกสับปะรดคนอื่นๆ ให้ปลูกสับปะรดโดยไม่ใช้สารเคมีหรือฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ไม่เพียงแต่ไม่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายและทำลายสิ่งแวดล้อม รวมถึงดินและแม่น้ำอีกด้วย การปลูกด้วยวิธีธรรมชาติจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า สับปะรดมีรสหวาน กรอบ และอร่อยกว่ามาก เป็นประโยชน์ต่อทุกคนด้วยราคาที่ดีกว่า ผลไม้ที่มีสุขภาพดีกว่า และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยม” ป๋าปอยิ้มกว้าง

วัตถุดิบหลักที่เราใช้คือสับปะรดที่ปลูกโดยกลุ่มชุมชนบ้านป่ารวกเท่านั้น เนื่องจากสับปะรดเป็นผลไม้ที่ปลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีหรือฮอร์โมน เรานำสับปะรดสดทั้งผลมาแปรรูปรวมกับส่วนผสมจากธรรมชาติอื่นๆ เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เพื่อให้คุณได้ใช้ทั้งผลและผลสับปะรดที่ดีต่อสุขภาพและปลอดภัย

เราหวังว่ากลุ่มเกษตรกรป่าปอและกลุ่มเกษตรกรบ้านป่ารวกและเกษตรกรรายอื่นๆ จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการปลูกพืชผลทางธรรมชาติต่อไป และขยายกลุ่มให้บรรลุเป้าหมายได้ อย่าลืมว่า “ทุกคนช่วยโลกนี้ได้”


โพสใหม่กว่า